สำหรับผู้ที่เริ่มวิ่งกันใหม่ๆ มักจะได้ยินนักวิ่งเค้าพูดถึงโซนในการออกกำลังกายกัน ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ช่วงแรกๆ ก็งง กับคำว่าโซน มันคืออะไร? มันวัดยังไงกัน ? แล้วมันมีผลกระทบกับการออกกำลังกายอย่างไร? ผมหาคำตอบไว้ให้แล้วครับ ไปอ่านพร้อมๆ กันเลย
โซนในการออกกำลังกายคือ ถ้าจะเรียกให้ครบต้องใช้คำว่า " Heart Rate Zone" หรือ โซนของอัตราการเต้นของหัวใจในขณะที่เราออกกำลังกาย
แล้วมันมีไว้เพื่ออะไร? มันมีหลายมุมมองครับแต่ที่ผมอ่านเจอมาแล้วคิดว่าเข้าใจง่ายสุดคือ
" การออกกำลังกายให้ประสิทธิภาพและให้ร่างกายได้เผาพลาญพลังงานนั้นจะต้องวิ่งตามอัตราการเต้นของหัวใจซึ่งแบ่งได้ 5 โซน "(1)
ซึ่งในแต่ละโซนมีแบ่งออกดังนี้
Zone 5 = Max Heart Rate x 90-100% Develop maximum performance and speed สำหรับนักกีฬามืออาชีพที่ต้องการพัฒนาประสิทธิภาพ เน้นใช้พลังงานจาก คาร์โบไฮเดรตถึง 90% ไขมันแค่ 10 % ได้แคลลอรี่ประมาณ 20 Cal/min ** การออกกำลังกายที่โซนนี้ไม่ควรออกต่อเนื่องนานเกินไป เพราะจะมีผลต่อหัวใจได้ในระยะยาว **
Zone 4 = Max Heart Rate x 80-90% Increase maximum performance capacity สำหรับผู้ที่ต้องการฝึกความอึด ความอดทนในการออกกำลังกายให้ได้นานยิ่งขึ้น เป็นการออกกำลังกายแบบ อะแนโรบิค เน้นใช้พลังงานจาก คาร์โบไฮเดรต 85% และใช้ไขมัน 15% ได้แคลลอรี่ประมาณ 17-20 Cal/min
Zone 3 = Max Heart Rate x 70-80% Improves aerobic fitness and blood circulation เป็นการออกกำลังประเภท แอโรบิค ช่วยให้ระบบหมุนเวียนเลือกได้ดี เน้นใช้พลังงานจากไขมันในร่างกาย 50% และ จาก คาร์โบไฮเดรต 50% และใช้แคลลอรี่ประมาณ 12-17 Cal/min
Zone 2 = Max Heart Rate x 60-70% Improve basic endurance and burns fat เน้นใช้พลังงานจากไขมันถึง 85% และจากคาร์โบไฮเดรต 10% โปรตีน 5% ได้แคลลอรี่ประมาณ 7-12 Cal/min
Zone 1 = Max Heart Rate x 50-60% Warms up and aids recovery เน้นใช้พลังงานจากไขมัน 85% และจากคาร์โบไฮเดรต 10% โปรตีน 5% ได้แคลลอรี่ประมาณ 3-7 Cal/min
จะพบว่าถ้าเรายังไม่ทราบว่า Maximum Heart Rate ของเราอยู่ที่เท่าไหร่ เราก็จะยังไม่สามารถแบ่งโซนได้ ซึ่งสูตรในการหา Maximum Heart Rate นั้นมีหลายสูตรมาก พื้นฐานก็คือ 220- อายุของเราก็ใช้ได้ แต่วิธีนี้ปัจจุบันจะไม่ค่อยนิยมเพราะว่า ถ้าเราอายุ 20 ปี และเพือนเราอายุเท่ากัน ค่าโซนทั้ง 5 จะออกมาเท่ากัน ซึ่งไม่ถูกต้องทีเดียว เพราะว่า ร่างกายความฟิตของแต่ละคนไม่เท่ากัน ดังนั้นจึงมีแนวคิดใหม่ในการคำนวน Maximum Heart Rate โดยใช้ ชีพจรขณะพักเข้ามาคำนวนด้วย
โดยใช้สูตรของ Karvonen * (2)
% ของความหนักของ(ชีพจรสูงสุด - ชีพจรขณะพัก) + ชีพจรขณะพัก
ตัวอย่างที่ 1 ความหนัก 60% ผู้ฝึก อายุ 20ปี, ที่มีชีพจรขณะพัก 50ครั้ง/นาที เมื่อคำนวณจากสูตร maxHR จะได้ว่า MaxHR= 220-20 = 200
จากนั้นมาเข้าสูตรของ Karvonen
= 60%[(200-50]+50
= 60%[150]+50
= 90+50
= 140ครั้ง/นาที
ซึ่ง ค่า 60% หรือค่าความหนักของการออกกำลังกายก็คือ ช่วง โซนต่างๆ นั่นเอง ซึ่งในที่นี้ โซน 2( 60%) จะมีอัตราการเต้นหัวใจเริ่มต้นที่140 ถึง 157
แต่ถ้าเทียบกับเพื่อนที่ ความหนัก 60% ผู้ฝึก อายุ 20ปี, ที่มีชีพจรขณะพัก 80ครั้ง/นาที เมื่อคำนวณจากสูตร maxHR จะได้ว่า MaxHR= 220-20 = 200
= 60%[(200-80]+80
= 60%[120]+80
= 72+80
= 152ครั้ง/นาที
ซึ่ง ค่า 60% หรือค่าความหนักของการออกกำลังกายก็คือ ช่วง โซนต่างๆ นั่นเอง ซึ่งในที่นี้ โซน 2( 60%) จะมีอัตราการเต้นหัวใจเริ่มต้นที่152 ถึง 164
ซึ่งจะเห็นได้ว่า คนที่อายุเท่ากันไม่จำเป็นต้องมีค่าอัตราการเต้นของหัวใจในโซนต่างๆที่เท่ากัน
ผมเชื่อว่าเราสามารถคำนวนว่าโซนของอัตราการเต้นของหัวใจในขณะที่เราออกกำลังกายอยู่ตรงไหนได้แล้วแล้วเราจะเลือกออกกำลังให้อยู่โซนไหนดีอันนนี้ก็แล้วแต่ความต้องการของแต่ละบุคคลเลยครับ
แต่อย่างที่ทราบๆกัน เราออกกำลังเพื่อสุขภาพใช่ไหมครับ การลดไขมันให้มีประสิทธิจึงเป็นการดี ดังนั้น การออกกำลังกายที่ โซน 2-3 จึงน่าจะเป็นคำตอบที่น่าสนใจให้กับนักวิ่งมือใหม่อย่างเราๆ ใช่ไหมครับ ไปครับ ไปวิ่งที่โซน 2 กันครับ วิ่งสบายๆ ไม่เครียด ลดไขมัน พุงยุบ หุ่นดี สวยหล่อ แน่นอนครับ อ่อ ลืมบอกไปครับ ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30-60 นาทีเป็นต้นไปนะครับ
แล้วโซน 2 ของคุณอยู่ตรงไหนครับ ร่วมแชร์ได้ที่คอมเม้นเลยครับ
แต่ถ้าขึ้เกียจคำนวนก็แนะนำแอพมือถือช่วยคำนวนได้ง่ายเลยครับ หรือลองหา Fitness tracker ที่สามารถแสดงผลเรื่องHeart rate zone ดูครับ ผมเคยเขียนบทความไว้ ลองไปอ่านดูได้ครับ ที่นี่ http://top3itemsbestseller.blogspot.com/2018/07/3.html
Cr:(1) http://www.yokekungworld.com/2015/08/running-coach-garmin-forerunner-225/
(2) https://planforfit.com/คำนวณอัตราการเต้นหัวใจ